การสอนทักษะการพูด
การพูดต้องควบคู่กันไปกันไปกับการฟังการฟัง
เพราะกิจกรรมบางอย่างไม่สามารถแยกการพูดกับการฟังออกจากกันได้และการฟังการพูดเป็นทักษะพื้นฐานในการสอนอ่านและเขียนจึงควรสอนให้สัมพันธ์กันโดยตลอด
การสอนฟัง พูดนั้นสามารถได้ทุกโอกาสทั้งในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียนหรือนอกเวลาเรียน
การพูดเป็นการการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดและความรู้ของตออกมาให้ผู้อื่นทราบเป็นทักษะที่มีความจำเป็นที่จะต้องฝึกฝน
จึงพัฒนา ดังนั้น
การเรียนนั้นควรจัดกิจกรรมส่งเสริมให้กับนักเรียนได้มีโอกาสฝึกทักษะการพูดในโอกาสต่างๆที่นักเรียนจำเป็นต้องใช้เพื่อเกิดความมั่นใจ
และสามารถปฎิบัติได้ “ การสอนพูดในโรงเรียนนั้น จุดหมายปลายทางคือการ
“พูดเป็น” เพราะถือว่านักเรียนทุกคนจะพูดได้แล้ว
จุดประสงค์ของการพูดที่ควรเน้น
1.
ฝึกให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นในตัวเอง
กล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น
2.
ฝึกพัฒนาการปฎิบัติตนในการพูด
3.
ฝึกทักษะและพัฒนาการพูดโดยคำนึงถึงจุดประสงค์ที่ต้องการจะเน้นในแต่ล่ะครั้ง
4.
ส่งเสริมพัฒนาการด้านการใข้ภาษาของนักเรียน
5.
ให้รู้จักใช้ภาษาพูด
เพื่อสื่อความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจความหมายได้ตรงตามความประสงค์
6.
เน้นส่งเสริม
เจตคติและนิสัยที่ดีในการพูด เช่น พูดให้ตรงประเด็น การควบคุมอารมณ์ในขณะ
7.
มารยาทที่ดีในการพูด
ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จำเป็น เพราะการพูดนั้นมีส่วนที่เสริมสร้างเจตคติในการติดต่อระหว่างบุคคลและหมู่คณะ
ดังนั้นเด็กจึงควรปฎิบัติให้เป็นนิสัยที่ดีเกี่ยวกับมารยาทที่ดีในการพูด เช่น
·
ควรรู้จักกล่าวคำ ขอบคุณ ขอบใจ เสียใจ
ขอโทษ ในโอกาสอันควรกล่าวให้เป็นนิสัย
·
ใช้ถ้อยคำสุขภาพ ให้เหมาะสมกับผู้ฟัง
·
ไม่พูดกระทบกระเทียบผู้อื่น
หรือให้ร้ายป้ายสีผู้อื่น
·
ไม่ใช้อารมณ์ในการพูด ควรพูดให้เหตุผล
·
ไม่พูดแซงขึ้นมากลางคันในขนาดที่ผู้อื่นยังพุดไม่จบ
·
ไม่พูดอวดตน อวดภูมิหรือข่มผู้อื่น
·
ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นถ้าเขามีเหตุผลที่ดีกว่า
·
เวลาที่จะขอร้องให้ผู้อื่นช่วย
ควรใช้คำ กรุณา หรือโปรด
·
คิดให้รอบคอบก่อนพูดเพราะบ้างทีเมื่อพูดไปแล้วคำพูดคำเดียวอาจฆ่าคนตายได้
ข้อมูลมาจาก
รค.ทัศนีย์ ศุภเมธี กศ.บ (เอกภาษาไทย สาขาการประถมศึกษา)
ผู้จัดพิมพ์.สถาบันราชภัฏธนบุรี พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2542
รค.ทัศนีย์ ศุภเมธี กศ.บ (เอกภาษาไทย สาขาการประถมศึกษา)
ผู้จัดพิมพ์.สถาบันราชภัฏธนบุรี พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2542
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น